รถมอเตอร์ไซค์ มีทั้งหมดกี่ประเภท ?

เราเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า รถมอเตอร์ไซค์ที่เราเห็นกันบนท้องถนนนั้น มีทั้งหมดกี่ประเภทกันแน่ และแต่ละประเภทมีการใช้งาน รูปลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยดีกว่า

ประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 ประเภท ดังนี้

1.รถครอบครัว หรือรถแม่บ้าน (Family)

เป็นรถครอบครัว  เน้นให้ทุกคนสามารถขับขี่ได้  ไม่ว่าจะป็นชายหรือหญิง ตัวเล็กตัวใหญ่  ใส่กระโปรงก็ขับได้  จึงมีการวางถังน้ำมันไว้ใต้เบาะแทนที่จะเป็นระหว่างขา  มีการใส่บังลมขนาดใหญ่ที่คอรถเพื่อให้ดูเหมาะสมกับการใส่กระโปรงขับขี่  ท่าขับขี่เน้นท่านั่งสบายตามปกติเหมือนนั่งเก้าอี้ธรรมดา  แฮนด์อยู่สูงและห่างกันค่อนข้างมาก ทำให้สามารถควบคุมวงเลี้ยวที่ความเร็วต่ำได้ดี  เนื่องจากรถประเภทนี้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความเร็วที่สูง จึงเน้นความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก  เครื่องยนต์สามารถเรียกแรงม้าที่มีอยู่เล็กน้อยได้ในรอบต่ำ  ความเร็วสูงสุดน้อย  และอัตราเร่งต่ำ  เหมาะสำหรับใช้เดินทางในระยะใกล้ๆ ระยะใช้งานปกติไม่เกิน 100 กิโลเมตร และไม่ต้องการความเร็วมาก

2.รถบ้านแนวสปอร์ต (Sport Family)

เป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  ด้วยความที่เป็นรถขนาดเล็กมาก น้ำหนักเบา กินน้ำมันน้อย และให้ความเร็วค่อนดีเมื่อเทียบกับรถแฟมิลี่  รถแฟมิลี่สปอร์ตออกแบบให้มีส่วนผสมระหว่างรถแฟมิลี่ และรถสปอร์ต  โดยยังคงหลักการที่สามารถให้สตรีสวมกระโปรงขับได้  แต่ตัดบังลมออกเพื่อความคล่องตัว  อีกทั้งแฮนด์ก็ยังเปลียนแป็นแฮนด์แบบสปอร์ตและอยู่ในระดับต่ำ เพื่อการควบคุมที่ดีในความเร็วที่สูงขึ้น  เรียกว่าเป็นรถที่เน้นให้ทุกคนในครอบครัวใช้ เเละยังมีความเร็วที่สูงกว่าแฟมิลี่

3.รถสกู๊ตเตอร์ หรือรถออโตเมติก (Scooter)

เรียกอีกชื่อว่ามอเตอร์ไซค์ออโตเมติก เพราะใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อนด้วยสายพานนั่นเอง จุดเด่นคือขับขี่ง่าย สตาร์ตง่าย ไม่ต้องเข้าเกียร์ มาในขนาดพอดี ทำให้ควบคุมรถและนั่งได้สบาย สมรรถนะไม่แรงมาก แต่ประหยัดน้ำมัน มีความทนทาน และใช้งานได้นาน ด้านราคาจะอยู่ที่หลักหมื่น จะใช้ขับใกล้หรือไกลก็ได้ หรือใช้ส่งอาหาร/ส่งของทุกวันก็ไหว

4.บิ๊กสกู๊ตเตอร์ (Big Scooter)

รถสกู๊ตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ได้รับการออกแบบให้ผู้ขับขี่นั่งหลังตรงรับกับแผ่นบังลมพอดี ช่วยลดความปวดเมื่อยระหว่างขับขี่ ทั้งยังควบคุมง่าย และมีสมรรถนะดี สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 500 ซีซี. – 800 ซีซี. แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้ขับระยะไกล เดินทางต่างจังหวัด หรือออกทริปบ่อย ๆ ในส่วนของราคาก็ถือว่าสูง

5.รถสปอร์ต (Sport Bike)

มอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ต มาในตัวถังขนาดใหญ่ ให้สมรรถนะแรง รวมถึงมีเทคโนโลยีช่วยขับขี่แบบจัดเต็ม ตอบโจทย์ไบค์เกอร์สายซิ่ง ออกทริปต่างจังหวัดบ่อย ๆ ทว่ารถประเภทนี้จะขับยากกว่ามอเตอร์ไซค์ปกติ ผู้ใช้จึงต้องมีทักษะในการขับขี่ประมาณหนึ่ง เพราะได้รับการออกแบบให้ต้องก้มตัวตลอดเวลา สร้างความปวดเมื่อยให้กับผู้ใช้พอสมควรเลย ทั้งยังมีราคาสูงพอ ๆ กับคุณภาพที่ได้รับ

6.สปอร์ตทัวร์ริ่ง (Sport Touring)

เป็นการผสานระหว่าง Sport Bike กับ Touring Bike มาในรูปลักษณ์เท่ โฉบเฉี่ยวคล้ายรถสปอร์ต แต่ช่วงท้ายจะโด่งน้อยกว่า ข้อดีคือขับแล้วไม่เมื่อยเท่าไหร่ เพราะออกแบบมาให้เอนตัวขับเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องก้มหรือโค้งตัวเยอะเหมือน Sport Bike ทั้งยังมีสมรรถนะที่จัดว่าใช้ได้ รองรับการใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันและออกทริปไกล ๆ

7.รถทัวร์ริ่งไบค์ (Touring Bike)

เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการขับขี่ในระยะทางไกลๆ โดยเฉพาะ โดยรถชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เบาะนั่งใหญ่นุ่มสบาย การจัดท่าทางนั่งขับเน้นความสบายของคนขับและผู้โดยสารมากที่สุด และยังติดอุปกรณ์บรรทุก กล่อง กระเป๋าต่างๆ จำนวนมาก เพื่อการเดินทางไกลโดยเฉพาะ รถทัวริ่งบางรุ่นมีระบบวิทยุติดรถ และระบบแอร์ รถทัวริ่งเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เน้นความเร็วที่สูงมาก อัตราเร่งของรถชนิดนี้ก็ไม่สูงมาก เน้นแรงบิดสูงในรอบต่ำ เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างสบาย

8.เนกเก็ตไบค์ (Naked Bike)

เป็นมอเตอร์ไซค์ที่เเปลงมาจากสปอร์ต แต่เปลือยแฟริ่งด้านข้างและด้านหน้าออก ทำให้วงเลี้ยวแคบ ออกแบบมาให้ใช้กับการขี่ในเมือง เพราะไม่มีแฟริ่งทำให้รถไม่ร้อนมาก เเฮนด์สูงกว่าเบาะทำให้นั่งหลังตรง เดินทางใกลได้สบายกว่าสปอร์ต

9.รถกึ่งเอนกประสงค์ (Dual Purpose)

มอเตอร์ไซค์สำหรับการผจญภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแอดเวนเจอร์ เพราะออกแบบมาเพื่อการบุกลุยใช้งานได้ในทุกเส้นทางทั้งออนโรดและออฟโรด มีการจัดตำแหน่งมาให้ผู้ขับขี่นั่งหลังตรง มือจับแฮนด์ขับได้อย่างสบาย ไม่ปวดเมื่อยระหว่างขับขี่

10.รถอเนกประสงค์ (Multi Purpose)

รถที่ใช้ได้เอนกประสงค์ ผสมผสานมอเตอร์ไซค์หลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ทำให้ใช้ได้ทุกประเภทการใช้งาน มีเเฟริ่งคลุมและความเเรงแบบสปอร์ต ท่านั่งเเบบ Touring โครงสร้างเเบบ Enduro จึงทำให้รถประเภทนี้หลากหลายในการใช้งาน

11.รถวิบาก (Enduro)

เป็นรถที่มีช่วงล่างยกสูง สำหรับวิ่งในภูมิประเทศที่ไม่เป็นถนน  ตามป่าเขา ทุ่งนา ถนนตัดเข้าไม่ถึง หรือถนนอยู่ในสภาพที่แย่เกินกว่าที่รถทั่วไปจะสามารถเข้าถึงได้   เอ็นดูโรจะมีลักษณะพิเศษคือ ยางจะมีดอกขนาดใหญ่และห่าง เพื่อใช้ในการเกาะตะกุยพื้นผิวที่ไม่เรียบ ทางฝุ่น ทางโคลนได้เป็นอย่างดี  รถชนิดนี้มีรอบเครื่องที่ขึ้นเร็ว ลงเร็ว  แรงบิดสูง เพื่อให้สามารถดันตัวรถและคนขับไปตามพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบได้ดีกว่ารถประเภทอื่นๆ

Comment

ฮอนด้า สุดยอดมอเตอร์

จำหน่ายรถฮอนด้าใหม่ ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องค้ำ ติดแบลคลิส ต่างจังหวัด ออกง่าย อนุมัติไว ” รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับประกันศูนย์แท้ทุกคัน 

โทร.063-936-4546

Facebook Page

ข่าวสาร

Blog

ตรวจไฟก่อนขับ สำคัญมาก!

ตรวจไฟก่อนขับ สำคัญมาก! เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ผมขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานในตอนเช้า ปกติแล้วผมไม่เคยตรวจระบบไฟก่อนขับขี่ แต่วันนั้น

Blog

น้ำมันเครื่อง สำคัญแค่ไหน?

น้ำมันเครื่อง สำคัญแค่ไหน? ตอนแรกผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเช็คน้ำมันเครื่อง จนวันหนึ่งมอเตอร์ไซค์ของผมเกิดปัญหากลางทาง เครื