รถจักรยานยนต์ ถือเป็นยานพาหนะในการเดินทาง ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ และการใช้งานของตัวรถเองนั้นไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย ยิ่งในการขับขี่ในตัวเมือง ตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ รถจักรยานยนต์นั้น มีความคล่องตัวกว่ารถยนต์ ในเรื่องของการดูแลรักษาไม่ได้ยุ่งยากเลย มีปัญหา และคงทนมากกว่ารถยนต์เสียอีก ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อมันมีการใช้งานเกิดขึ้น เรื่องของการดูแลรักษามันก็ต้องมี โดยภาพรวมแล้วก็เหมือนกับรถยนต์ ในวันนี้เราจะพาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคน ไปดูกันว่า รถจักรยานยนต์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ เมื่อขับขี่ไปนาน ต้องมีการดูแลเรื่องอะไรบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้รถจักรยานยนต์ของเรา ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนานยิ่งขึ้น
น้ำมันเครื่อง
นี้คือสิ่งแรกที่เราต้องใส่ใจ น้ำมันเครื่องนั้นเป็นสารหล่อหลื่น ที่มีความสำคัญต่อตัวเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์อย่างมาก เมื่อเราขับขี่มาได้สักระยะทางหนึ่ง จำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เหมือนกับรถยนต์ สำหรับน้ำมันเครื่องจะมีให้เราเลือกทั้งหมด 3 เกรด ด้วยกัน ดังนี้
- เกรด A จะเป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ 100 % ราคาจะแพงที่สุดในบรรดาน้ำมันเครื่องทั้งหมด แต่ข้อดีเมื่อใช้นำมันแบบสังเคราะห์ 100 % แล้วนั้น เวลาในการเปลี่ยนถ่ายค่อนข้างนาน ต้องขับขี่ให้ครบ 5,000 กิโลเมตรจึงค่อยครบรอบเปลี่ยนใหม่
- เกรด B เป็นน้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ ราคาก็จะไม่แพงมาก ระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่าย ประมาณ 3,000 กิโลเมตร
- เกรด C ราคาถูกที่สุด และได้รับความนิยม คงด้วยเพราะราคาน่าจะไม่เกิน 100 บาท แต่มีข้อเสีย ในเรื่องของเวลาการเปลี่ยนถ่ายจะรวดเร็ว ขับขี่ได้แค่เพียง 2,000 กิโลเมตร ต้องทำการเปลี่ยนถ่ายแล้ว
น้ำหล่อเย็นสำหรับหม้อน้ำรถจักรยานยนต์
จะใช้กับรถจักรยานยนต์ ที่มีหม้อน้ำติดตั้งกับตัวรถเท่านั้น ตัวหม้อน้ำนี้มีไว้เพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ถ้าหากรถจักรยานยนต์ของใครมี เมื่อระยะทางของการใช้งานครบ 40,000 กิโลเมตรแล้ว ต้องมีการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นทุกครั้ง ถ้าไม่เปลี่ยน จะทำให้ระบบระบายความร้อนมีปัญหาพังได้
น้ำมันเบรกรถจักรยานยนต์ที่มีดิสก์
นี้เป็นของเหลวที่ผู้ขับขี่ มักจะมองข้ามเป็นอันดับ 1 ส่วนใหญ่จะมีความคิดว่า เวลาที่เบรกไม่ค่อยทำงาน เกิดจากผ้าเบรคของตัวรถจักรยานยนต์หมด แค่เปลี่ยนผ้าเบรกระบบเบรกจะกลับมาใช้งานได้แล้ว ซึ่งมันเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ผู้ขับขี่นอกจากจะต้องตรวจสอบเรื่องของผ้าเบรกแล้ว ระดับของน้ำมันเบรกต้องดูควบคู่กันไปด้วย เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ จนเข็มไมค์บอกระยะทาง 80,000 กิโลเมตร ควรทำการเปลี่ยนน้ำมันเบรกทันที เพื่อทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เครดิตภาพจาก : https://www.autodeft.com/
