ในช่วงตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อ COVID-19 ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมไทยทั่วทั้งประเทศ ทำให้ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านลดการเดินทางออกนอกที่พัก หนึ่งในกลุ่มอาชีพที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างมากก็คือบริการรับส่งพัสดุ สินค้า รวมไปถึงบริการส่งอาหาร delivery
เมื่อคนไม่สามารถออกจากบ้านได้ตามปกติแต่การสื่อสารติดต่อกัน การรับส่งสินค้ายังจำเป็นต้องดำเนินไป บริการอย่าง Kerry หรือ Flash Express ย่อมมีบทบาทมากขึ้น เช่นเดียวกับการที่ทุกคนยังต้องการอาหารอยู่ทุกวันชื่อของ Foodpanda, Grabfood หรือ Line Man ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยมากขึ้น
ดังนั้นการหา มอเตอร์ไซค์ สักคันเพื่อนำมาใช้ทำงานรับ-ส่งพัสดุ หรือส่งอาหารในช่วงนี้ น่าจะเป็นความคิดที่ดีทีเดียวในการหารายได้เสริม หรืออาจจะหันมายึดเป็นอาชีพหลักไปเลยก็ได้เช่นกัน
สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ ส่งอาหาร รับ-ส่งพัสดุ หรือ แมสเซนเจอร์ ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กรุ่น 125 ซี.ซี. ที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน ฉะนั้นลองมาดูกันว่า หากจะลงทุนซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่สักคันควรเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ที่มีคุณสมบัติอย่างไร และมีแบรนด์ดังรุ่นไหนบ้างที่นิยมใช้กันมากที่สุด
มอเตอร์ไซค์สำหรับอาชีพ ส่งอาหาร ส่งพัสดุ หรือ แมสเซนเจอร์ ควรมีลักษณะอย่างไร
- ประหยัดน้ำมัน น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ต้องคำนึงถึงเป็นข้อแรก เพื่อลดต้นทุนในการทำงาน
- อึด ถึก ทน เสียยากแต่ซ่อมง่าย เพราะต้องใช้งานติดต่อกันหรือขับขี่เป็นระยะทางไกล
- น้ำหนักรถเบา ขับขี่ง่าย คล่องตัว เพราะจะช่วยร่างกายไม่ล้ามากเกินไปจากการขับขี่ตลอดทั้งวัน
- มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ที่ห้อยถุง, พื้นที่วางของระหว่างขา, ช่อง USB เป็นต้น
- มาพร้อมกับล้อแม็ก ซึ่งจะได้ยางแบบไม่มียางใน (tubeless) ข้อดีคือ ไม่รั่วบ่อยเหมือนล้อซี่ลวด ช่วยในเรื่องความปลอดภัยได้
มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า ประหยัดน้ำมัน 2020 สำหรับรับงานส่งพัสดุ-ส่งอาหาร
1. All New Honda Wave 125i
จุดเด่นของ All New Honda Wave 125i
- ไฟหน้า LED ครั้งแรกของเวฟ พร้อมไฟบอกตำแหน่ง ไฟเลี้ยวและไฟท้ายสไตล์ใหม่
- กล่องเก็บของใต้เบาะนั่งขนาดใหญ่ความจุ 17 ลิตร ปกติใช้เก็บหมวกกันน็อก เวลาส่งของใช้เก็บสัมภาระได้
- ถังน้ำมัน 5.4 ลิตร
- ดิสก์เบรกหน้า ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ
สมรรถนะและเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ 125 ซี.ซี. ระบบหัวฉีด PGM-FI ระดับ 5.5 รองรับตามกฎหมาย EURO4 (Emission7) เป็นรุ่นแรกของรถครอบครัวที่รองรับกฎหมายนี้
- เกียร์วน 4 จังหวะ
- ระบบการติดเครื่องยนต์ มีทั้งสตาร์ตมือและเท้า
- ระบบกันสะเทือนล้อหน้าเทเลสโคปิค ล้อหลังสวิงอาร์ม
- ระบบเบรก ดิสก์เบรกล้อหน้า ดร้มเบรกล้อหลัง
- มีให้เลือกทั้งแบบล้อแม็กและล้อซี่ลวด
อัตราประหยัดน้ำมัน
- 64 กม./ลิตร
2. Honda New Click 125i
จุดเด่นของ Honda New Click 125i
- ไฟหน้าและไฟท้าย LED คู่ ออกแบบสไตล์เรียบหรูแต่ดุดัน
- บังโคลนหลังเปลี่ยนเป็นแบบบังโคลนแยกสไตล์สปอร์ตโดยติดตั้งไฟเลี้ยวและไฟส่องป้ายทะเบียน
- แผงหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ บอกข้อมูลและสถานะต่าง ๆ ได้ครบถ้วน อย่างเช่น อัตราการใช้น้ำมัน นาฬิกาไฟเตือนเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ระยะทริป ระดับแบตเตอรี่ เป็นต้น
- ท่อไอเสียสไตล์รถสปอร์ต เพิ่มความโฉบเฉี่ยว
สมรรถนะและเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ eSP ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ 125 ซี.ซี. แบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- เกียร์อัตโนมัติ ส่งกำลังด้วยระบบ V-Matic แบบสายพาน [V-Belt]
- ระบบการติดเครื่องยนต์ มีทั้งสตาร์ตมือและเท้า
- ความจุถังน้ำมัน 5.5 ลิตร
- ระบบกันสะเทือนล้อหน้าและหลังเทเลสโคปิค
- ระบบเบรก ดิสก์เบรกล้อหน้า ดร้มเบรกล้อหลัง
อัตราประหยัดน้ำมัน
- 58.9 กม./ลิตร
3. Honda New ADV150
จุดเด่นของ Honda ADV150
- ไฟหน้าใช้ไฟแบบ LED ทั้งไฟสูงและไฟต่ำ รวมถึงไฟเลี้ยวก็เป็นไฟ LED
- โช๊คหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค ล้อหน้าขนาด 14 นิ้ว รัดยางแบบกึ่งลุยชนิดไม่มียางใน มาพร้อมกับดิสเบรคแบบ Wavedisc และระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก
- ชิวหน้า ปรับสูง-ต่ำได้ 2 ระดับ ปรับง่ายๆ ด้วยการดึงตัวปรับ 2 ข้างพร้อมกัน แล้วยกขึ้น หรือดันลงตามสะดวก แฮนด์ของตัวรถ มีความกว้างมากกว่ารถสกู๊ตเตอร์ในคลาสเดียวกันแบบรู้สึกได้ แต่ก็ให้ความรู้สึกในการควบคุมที่ง่ายดายกว่าชัดเจน
- หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลสไตล์เดียวกับ Honda X-ADV 750 บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็ว, ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, ทริป A,B, อุณหภูมิภายนอก, วัน,เดือน, เวลา, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง, วัดโวล์ทแบตเตอร์รี่ เป็นต้น
- ระบบกุญแจ เป็นกุญแจชนิดคีย์เลสแบบเดียวกับ Honda PCX ทุกประการ มาพร้อมกับปุ่มเปิดเบาะ และปุ่มเปิดช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
- ไฟท้าย LED รูปทรงตัว X พร้อมไฟเลี้ยว LED โดดเด่นไม่เหมือนใคร
- โช๊คอัพคู่พร้อมซัพแท้งค์จาก Showa และ ท่อไอเสียที่วางตำแหน่งสูงกว่า Honda PCX อย่างชัดเจน ดูเข้าทรงกับตัวรถสไตล์ลุยๆ เป็นอย่างดี
- ระบบเบรคด้านหลังให้ดิสเบรกมาเลย จัดว่าดี ส่วนล้อหลังเป็นล้อขนาด 13 นิ้ว
สมรรถนะและเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ eSP ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ 2 วาล์ว 150 ซี.ซี. แบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- เกียร์อัตโนมัติ ส่งกำลังด้วยระบบ V-Matic แบบสายพาน [V-Belt]
- แรงบิด 13.8 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที
- พละกำลัง 14.5 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที
- ความจุถังน้ำมัน 5.5 ลิตร
- ระบบกันสะเทือนล้อหน้าและหลังเทเลสโคปิค
- ระบบเบรกหน้าเป็น ดิสเบรกเดี่ยว พร้อมระบบ ABS เบรคหลัง เป็น ดิสเบรกเดี่ยว
อัตราประหยัดน้ำมัน
- 50 กม./ลิตร
มอเตอร์ไซค์ Honda ADV150 มอเตอร์ไซค์ออโตเมติกดีไซน์หล่อล้ำเร้าใจสไตล์สปอร์ต ภายใต้แนวคิด “ชีวิตมีสองด้าน ใช้มันส์ซะ!” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ eSP 150 ซีซี และระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ ช่วยประหยัดน้ำมันได้ 58.9 กม./ลิตร ที่สำคัญมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนแบบบิลด์อิน (Built-in Liquid Cooled)
ขณะเดียวกันก็โดดเด่นด้วยดีไซน์ของแผงหน้าปัดดิจิตอลแบบจัดเต็ม สามารถบอกอัตราการใช้น้ำมัน นาฬิกาไฟเตือนเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ระยะทริป ระดับแบตเตอรี่ได้อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์ดีไซน์สวยโฉบเฉี่ยว ฟังก์ชันครบจัดเต็ม แถมประหยัดน้ำมันแบบนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ!
เชื่อว่าผู้ที่กำลังสนใจจะเข้าสู่อาชีพบริการ ส่งอาหาร ส่งพัสดุ หรือ แมสเซนเจอร์ น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเมื่อดูจากแนวโน้มที่เป็นไปในช่วงนี้ ซึ่งหากจะต้องซื้อ รถมอเตอร์ไซค์ ใหม่ อย่าลืมคำนึงถึงความคล่องตัวในการขับขี่ อัตราการประหยัดน้ำมันและการดูแลรักษา ซึ่งล้วนมีผลต่อการทำงานให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด
ข้อมูลจาก: aphonda.co.th, finacebike.com, brandinside.asia, 168automotive.com, kapook, priceprice