อยากได้รถมอเตอร์ไซค์ 300 ซีซี สักคันจะเลือกรุ่นไหนดี! หากย้อนกลับไปสักปีหรือสองปีที่แล้วก็ต้องบอกว่าเลือกยาก เพราะแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ก็มีจุดดีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป และรถในพิกัดนี้ก็ให้เทคโนโลยีต่างๆ มาใกล้กัน ดีไซน์ก็มีให้เลือกคล้ายๆ กันเกือบทุกแบรนด์คือ ถ้าไม่แนวสปอร์ต ก็ต้องเนคเก็ตไบค์
แต่ในปี 2018 ทางฮอนด้าได้เซอร์ไพรส์เหล่าไบค์เกอร์หัวใจ 300 ซีซี ทั้งโลกด้วยการออกรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ที่ไม่ใหม่เพียงชื่อรุ่น แต่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เรียกว่า Neo Sports Café ที่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบสปอร์ตเข้ากับความคลาสสิคแนวคาเฟ่ได้อย่างลงตัว
เรียกได้ว่าแค่เรื่องดีไซน์ก็โดดเด่นเตะตาขโมยซีนกันสุดๆ ซึ่งความโชคดีก็ตกอยู่ในมือไบค์เกอร์อย่างเราๆ ที่มีรถดีไซน์ใหม่ๆ ออกมาให้ได้เลือกเล่นกันบ้าง
แต่สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ก็คือ เทคโนโลยีที่ใส่มาในรถ Honda CB300R นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้ยิ่งโดดเด่นกว่าใครในพิกัดเดียวกันเข้าไปอีก ซึ่งเทคโนโลยีที่ว่าจะมีอะไรบ้างวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกแต่ละจุดกันเลย
Full LCD Multifunction Meter เรือนไมล์แบบฟูลดิจิทัลแสดงผลทุกอย่างบนหน้าจอ LCD ที่มาพร้อมไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์เมื่อถึงรอบ มีฟังก์ชัน Peak Hold เพื่อให้เร่งได้อยากสนุกต่อเนื่อง
ไฟหน้าเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถในตระกูล Neo Sports Café ไฟกลมแนวคาเฟ่ย้อนยุค แต่ใช้หลอด LED สมัยใหม่ที่ให้ความสว่างปลอดภัยเวลาขับขี่ตอนกลางคืนได้อย่างดี และน่าจะเป็นรถรุ่นเดียวในพิกัด 300 ซีซี ที่ใช้ไฟ LED รอบคัน
โช้กหัวกลับขนาด 41 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมใช้กันในรถบิ๊กไบค์ แต่ครั้งนี้ฮอนด้าจับมาใส่กับรถระดับ 300 ซีซี และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจด้วยดิสก์เบรคหน้าขนาดใหญ่ เรเดียลเมาท์ และ ABS G-Sensor เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง
โช้กหลังแบบโมโนโช้กที่สามารถปรับระดับได้ถึง 7 ระดับ สำหรับไบค์เกอร์ที่มักเจอปัญหาอยากขับขี่ทั้งในเมืองและระยะไกล แต่โช้กเดิมๆ ที่ให้มาของรถไม่ตอบโจทย์ การมีโช้กที่ปรับระดับได้ถึง 7 ระดับแบบนี้เราขอบอกว่าช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเราสามารถปรับให้เหมาะกับการขับขี่แต่ละรูปแบบได้
สุดท้ายกับท่อไอเสียแบบใหม่ ที่ถอดแบบมาจากรถบิ๊กไบค์ของฮอนด้าเอง โดยโครงสร้างท่อแบ่งออกเป็น 2 ห้อง เพื่อให้ได้เสียงที่เร้าใจและตอบสนองอัตราเร่งได้ดีขึ้น
ครั้งนี้ที่เราเลือกนำเทคโนโลยีเด่นๆ ของรถ Honda CB300R มาเล่าให้ฟังกัน เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นกว่ารถรุ่นอื่นๆ ในพิกัดเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด
แต่สุดท้ายเราก็ยังคงแนะนำให้เหล่าไบค์เกอร์ได้ไปลองรถหลายๆ รุ่นด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้ออยู่ดีนะครับ ซึ่งการได้รับรู้ข้อมูลความแตกต่างของรถก่อนไปลองจะช่วยให้ประหยัดเวลาในการเลือกซื้อได้อีกเยอะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบรถคอนเซ็ปต์ Neo Sports Café ก็สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.aphonda.co.th
