ระหว่างขับขี่บิ๊กไบค์หรือรถจักรยานยนต์ สามารถเกิดอาการเมื่อยล้าขึ้นได้กับไบค์เกอร์ทุกคน ทุกวัย ยิ่งในผู้ที่ขับขี่ออกทริปทางไกลด้วยระยะทางรวมถึงระยะเวลาในการขับขี่ อาจก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยสะสมจากท่านั่งขับขี่ และอาจส่งผลกระทบต่อสมรรถนะในการขับขี่ได้ สาเหตุหลัก ๆ ของอาการปวดเมื่อยก็มาจากการเกร็งตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายระหว่างขับขี่ รวมไปถึงการแบกรับน้ำหนักของอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากเกินไป เช่น หมวกกันน็อก กระเป๋าเป้ เป็นต้น วันนี้เราจึงมาแนะนำ 6 ท่าบริหารคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่แบบง่าย ๆ รับรองว่ามีประโยชน์กับไบค์เกอร์อย่างเรา ๆ แน่นอนครับ
1. ท่าบริหารต้นคอ
อาการปวดต้นคอเกิดขึ้นจากการที่ผู้ขับขี่เกร็งต้นคออยู่ตลอดเวลาระหว่างขี่บิ๊กไบค์ ส่วนมากสาเหตุหลัก ๆ มาจากการที่หมวกกันน็อกปะทะกับลม หรือจากน้ำหนักของหมวกกันน็อกที่อาจจะมากเกินไปทำให้เกิดอาการเกร็งต้นคอโดยไม่รู้ตัวเพื่อที่จะแบกรับน้ำหนักของหมวกกันน็อกนั่นเอง ท่าบริหารง่าย ๆ ทำได้โดยการเอียงศีรษะที่ด้านซ้าย – ขวา สลับกันไปเรื่อย ๆ พร้อมหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ และในโอกาสต่อไปเมื่อได้เวลาที่ต้องซื้อหมวกกันน็อกใบใหม่ ควรเลือกหมวกกันน็อกที่มีขนาด และน้ำหนักที่ผู้ขับขี่สวมใส่รู้สึกสบายไม่หนักจนเกินไป
2. ท่าบริหารยืดเส้นบริเวณหัวไหล่
อาการปวดเมื่อยบริเวณช่วงหัวไหล่มักเกิดจากการที่ผู้ขับขี่เกร็งช่วงแขนค้างเป็นเวลานาน สาเหตุอาจเกิดจากการที่ผู้ขับขี่ยังไม่ชินกับขนาดรถบิ๊กไบค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป หรือเกิดจากการจัดตำแหน่งท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง สำหรับท่าบริหารคลายอาการปวดเมื่อยบริเวณช่วงหัวไหล่แบบง่าย ๆ เริ่มจากการเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่อีกข้างโดยตั้งศอกชี้ไปด้านหน้า และใช้มืออีกข้างประคองเพื่อยืดช่วงหัวไหล่ ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง หรืออีกหนึ่งท่าบริหารช่วงหัวไหล่คือการเหยียดแขนทั้งสองข้างไปด้านหลังให้สุด แล้วค่อย ๆ ดึงกลับมาข้างลำตัว แล้วจึงเหยียดออกไปอีกครั้งทำสลับไปมา หากหมั่นบริหารหัวไหล่ และช่วงแขนด้วย 2 ท่านี้ รับรองว่าอาการปวดเมื่อยบริเวณช่วงหัวไหล่จะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
3. ท่าบริหารอาการปวดเอวหรือบริเวณหลังเหนือก้นกบ
อาการปวดเมื่อยบริเวณเอวหรือบริเวณแผ่นหลังเหนือก้นกบระหว่างขับขี่ ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการจัดตำแหน่งท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง บวกกับขนาดของตัวรถบิ๊กไบค์ที่มีการเซ็ทอัพช่วงล่างแข็งเกินไปจนกระด้าง ทำให้แรงสั่นสะเทือนทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ สะท้อนมาถึงบริเวณเอวหรือบริเวณแผ่นหลังเหนือก้นกบ สำหรับท่าบริหารคลายเมื่อยนั้น เริ่มจากการใช้มือข้างหนึ่งจับที่แฮนด์บาร์ ส่วนมืออีกข้างให้เอื้อมไปจับด้านท้ายของบิ๊กไบค์ พร้อมค่อย ๆ บิดตัว และศีรษะตามไปด้วย ทำค้างไว้ 3 – 5 วินาที ทำสลับข้างกันทั้งซ้าย และขวา
4. ท่าบริหารอาการปวดปีกหลังหรือสะบักหลัง
การขับขี่บิ๊กไบค์ด้วยท่าขับขี่เดิมเป็นระยะเวลานาน รวมถึงการสะพายเป้ด้านหลังรวมถึงมีสัมภาระติดตัวที่มีน้ำหนักมากเกินไป หรือแม้แต่หมวกกันน็อกที่มีน้ำหนักมากเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดปีกหลังหรือสะบักหลังได้ สำหรับการบริหารเพื่อแก้อาการปวดปีกหลังหรือสะบักหลังเบื้องต้น ทำได้โดยการยืดกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว โดยประสานมือไว้ที่ศีรษะบริเวณเหนือท้ายทอย ผายอกไปด้านหน้าพร้อมทั้งหุบข้อศอกทั้งสองข้างมาด้านหลัง ค้างไว้สักครู่แล้วผ่อนกลับท่าปกติ สามารถทำซ้ำ ๆ ได้จนกว่าอาการปวดเมื่อยจะทุเลาลง และหากเกิดอาการปวดปีกหลังหรือสะบักหลังบ่อย ๆ แนะนำว่าควรปรับพฤติกรรม และท่าทางในการขับขี่บิ๊กไบค์โดยการผ่อนแขน หัวไหล่ เป็นช่วง ๆ ปรับเปลี่ยนวิธีขนสัมภาระ หรือซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น กล่องเก็บของข้างรถมาติดแทนก็จะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
5. ท่าบริหารอาการปวดต้นขา
สำหรับรถสไตล์ Adventure เป็นรูปทรงที่อำนวยในการยืนขับขี่ในบางโอกาส เพื่อการทรงตัวในสถานการณ์ลุย ๆ ได้ ซึ่งโดยปกติผู้ขับขี่บิ๊กไบค์มักไม่ได้มีโอกาสยืนขับเป็นระยะเวลานานมากนัก อาการปวดเมื่อยต้นขาจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาอาการปวดบริเวณอื่น ๆ สำหรับผู้ขับขี่สามารถคลายเมื่อยจากอาการปวดต้นขาได้ระหว่างจอดติดไฟแดง การยืดขาในแนวตรงชี้ไปข้างหน้าสลับกันไปทีละขา หรืออีกท่าคลายความเมื่อย และอาการปวดได้ดีที่สุดคือ การลงจากรถโดยใช้มือข้างหนึ่งจับแฮนด์รถเพื่อประคองตัวเอาไว้ ยกขาแล้วพับไปด้านหลัง และใช้มือข้างเดียวกับขาที่พับไว้ ดึงที่บริเวณข้อเท้าเพื่อยืดเส้นช่วงต้นขาให้ตึง ซึ่งท่านี้เป็นท่าที่ผู้ออกกำลังกายใช้ในการยืดเส้นหลังออกกำลังกายนั่นเอง
6. ท่าบริหารอาการปวดตามนิ้วมือ และข้อมือ
สาเหตุอาการปวดตามนิ้ว และข้อมือเกิดจากการเกร็งข้อมือมากเกินไประหว่างขับขี่ การกำก้านเบรก และก้านคลัตช์ตลอดเวลา จึงควรผ่อนคลายช่วงแขนไม่ให้ตึงจนลงน้ำหนักที่ข้อมือมากเกินไป ท่าบริหารก็ทำได้โดยการประสานมือเข้าหากัน ยื่นมือไปข้างหน้าแล้วผลิกฝ่ามือด้านในออก พร้อมค่อย ๆ ดันฝ่ามือเหยียดไปด้านหน้าตรง ๆ
เพียงทำตามท่าบริหารคลายความเมื่อยระหว่างขับขี่ง่าย ๆ ตามที่แนะนำไป รับรองว่าคุณจะมีความสุขกับการขับขี่บิ๊กไบค์ ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุขแน่นอน สำหรับใครที่อยากมีประสบการณ์ท่องเที่ยวเปิดโลกแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกบิ๊กไบค์คู่ใจแบบไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำกันครับ Honda ADV คือรถที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และนอกเมือง สบายแม้ต้องขับในระยะไกลเป็นเวลานาน เพราะรูปทรงและตำแหน่งแฮนด์บาร์ให้ท่านั่งที่สบาย ส่วนคนที่ชอบความลุย แต่ก็ไม่ละทิ้งความเท่ ก็ต้อง All New Honda CBR150R ที่จะพาคุณไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะทางเรียบหรือทางฝุ่น เปิดประสบการณ์ขับขี่เติมเต็มพลังให้แก่ชีวิตได้อย่างแน่นอน สมบูรณ์แบบทุกการขับขี่
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก HONDA
